ท่องเที่ยว

"มนุษยนาควิทยาทาน" อาคารทรงคุณค่า ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

23 พฤศจิกายน 2561 เวลา 21:31 ผู้เข้าชม: 15,387
1
0
0

    ณ ปัจจุบันนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักนาม วัดบวรนิเวศวิหาร พระอารามหลวงสำคัญแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่นอกจากจะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ อาทิ พระพุทธชินสีห์ พระสุวรรณเขต พระศรีศาสดา ฯลฯ อีกทั้งการตกแต่งสถาปัตยกรรมก็งดงามวิจิตร ผสมผสานทั้งศิลปะไทย จีน และตะวันตกได้อย่างลงตัว

ผู้สนับสนุน

     เขตสังฆาวาสของวัดบวรนิเวศวิหาร ก็มีความสวยงามไม่ต่างจากเขตพุทธาวาส ด้วยเป็นที่ตั้งของหมู่พระตำหนักที่ประทับ สถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ทั้งพระตำหนักเพ็ชร พระตำหนักจันทร์ พระตำหนักใหญ่ พระปั้นหย่า ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน

    

    แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ใช่สิ่งที่จะนำพาไปชมในครั้งนี้...

    ถัดเข้าไปจนถึงช่วงรอยต่อระหว่างเขตสังฆาวาส และโรงเรียนวัดบวรนิเวศ จะเป็นลานจอดรถขนาดย่อม ด้านหนึ่งของลานเป็นที่ตั้งของกลุ่มศาสนสถานในวัดรังษีสุทธาวาส ที่ปัจจุบันรวมเข้าด้วยกันกับวัดบวรฯ

    ส่วนอีกด้านหนึ่ง จะมองเห็นอาคารศิลปะแบบตะวันตก แลดูคล้ายกับโบสถ์ฝรั่ง หน้าบันมีอักษรระบุชื่ออาคารไว้อย่างชัดเจน...


พิพิธภัณฑ์และห้องสมุดเจ้าอาวาส วัดบวรนิเวศวิหาร

อาคารมนุษยนาควิทยาทาน

    อาคารมนุษยนาควิทยาทาน สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2466 โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ซึ่งได้สิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ.2464 ในการนี้ได้พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน 10,000 บาท รวมกับทรัพย์ที่ศิษยานุศิษย์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ร่วมกันบริจาค เป็นทุนในการสร้างอาคารหลังนี้ขึ้นมา โดยมีสมเด็จพระอนุชาธิราช กรมหลวงนครราชสีมาเป็นผู้อำนวยการดำเนินงาน

    เมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น อาคารหลังนี้ได้รับพระราชทานนามว่า มนุษยนาควิทยาทาน คำว่า มนุษยนาค มาจากพระนามเดิมของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส นั่นคือ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ รวมกับคำว่า วิทยาทาน แล้ว จึงสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของอาคาร ที่ใช้เป็นสถานที่ทำการเรียนการสอนของโรงเรียนวัดบวรนิเวศ สืบเนื่องมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง กระทั่งมีการปรับปรุงอาคารเป็นพิพิธภัณฑ์ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) ทรงเจริญพระชันษาครบ 8 รอบ ในปีพ.ศ.2552

    อาคารมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ซึ่งถือกำเนิดในทวีปยุโรปและมักใช้กับอาคารจำพวกศาสนสถาน ปราสาท หรือสถานที่สำคัญ เอกลักษณ์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากภายนอกคือ การทำซุ้มโค้งยอดแหลม การประดับ Rose Window หรือหน้าต่างกลมประดับกระจกสีเหนือประตูทางเข้า และยังมีการสร้างหอสูงเลียนแบบหอระฆังในโบสถ์คริสต์ขนาบกับมุขทางเข้าด้วย

    เมื่อก้าวเข้ามาในอาคารจะพบกับห้องโถง เปิดโล่งเห็นเพดานสัน และระเบียงทางเดินชั้นสอง ด้านบนจะเห็นซุ้มประดิษฐานพระรูปหล่อ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ส่วนด้านล่างเป็นโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระรูปหล่อครึ่งพระองค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งทรงผนวช

    ในห้องนี้มีเก้าอี้ยาวตั้งเป็นแถว ๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในโบสถ์คริสต์อีกเช่นกัน สามารถเข้ามานั่งพักผ่อนได้

   

    รอบห้องโถง จัดแสดงพระสาทิสลักษณ์ และจอนำเสนอพระประวัติของอดีตสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จำนวน 19 พระองค์

    และยังมีสิ่งของอันเกี่ยวเนื่องกับการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กัน

    จากห้องโถง หันหน้าไปทางประตู ให้เดินขึ้นบันไดทางขวาเพื่อเข้าชมนิทรรศการในชั้นที่ 2 โดยเส้นทางจะเดินทางเดียว จากปีกขวาวนมาที่ปีกซ้ายและลงบันไดอีกด้านหนึ่ง มีลูกศรนำทางติดอยู่ที่พื้น

    ห้องนิทรรศการแบ่งเป็น 6 ห้อง ตามจำนวนอดีตเจ้าอาวาสของวัดบวรนิเวศวิหาร ดังนี้


ห้องที่ 1 : พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จมาประทับและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปีพ.ศ.2379 - 2394 (14 ปี) ขณะยังทรงผนวช มีพระนามฉายาว่า วชิรญาณภิกขุ ซึ่งภายหลังเมื่อขึ้นครองราชย์แล้วก็เสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศลที่วัดแห่งนี้อยู่เสมอ

    ภายในห้องที่ 1 จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระจริยวัตรขณะทรงเป็นเจ้าอาวาส ที่น่าสนใจคือเครื่องบริขาร จดหมายลายพระหัตถ์ และอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์  ที่เป็นของใช้ส่วนพระองค์จริง ๆ นำมาให้ชมอย่างใกล้ชิด

ห้องที่ 2 : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปีพ.ศ.2394 - 2435 (42 ปี) ทรงเป็นผู้ริเริ่มวัตรปฏิบัติของคณะสงฆ์ในธรรมยุติกนิกายในหลายด้านด้วยกัน อีกทั้งยังมีพระอัจฉริยภาพทั้งด้านภาษา และดาราศาสตร์

    ภายในห้องนี้จัดแสดงภาพพระสาทิสลักษณ์ พัดยศสมณศักดิ์ รวมถึงของใช้ส่วนพระองค์ อาทิ ฉลองพระเนตร(แว่นตา) ต้นฉบับสมุดพระนิพนธ์ เป็นต้น

ห้องที่ 3 : สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นพระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 และเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปีพ.ศ.2435 - 2464 (29 ปี) ทรงเป็นผู้นำการปฏิรูปพระพุทธศาสนาครั้งใหญ่ในสยาม จัดระบบการปกครองและการศึกษาของคณะสงฆ์ให้เป็นระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น พระราชกรณียกิจดังกล่าวทำให้พระองค์ได้รับการยกย่องให้เป็น ดวงประทีปแก้วแห่งคณะสงฆ์ไทย

    นอกจากการจัดแสดงบริขาร และเอกสารอันเกี่ยวเนื่องกับพระราโชบาย ณ ขณะนั้นแล้ว ยังมีของส่วนพระองค์ เช่น สมุด ปากกา ลูกคิด และอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ ที่สะท้อนถึงความสนพระหฤทัย และพระจริยวัตรอันเรียบง่ายของพระองค์

    สิ้นสุด 3 ห้องทางปีกขวา เดินย้อนกลับมาตรงกลาง ก็จะสามารถมองห้องโถงที่เข้ามาในตอนแรกได้อย่างชัดเจน

    ขณะเดียวกัน ที่ห้องกลางชั้นสอง จัดแสดงภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ 5-7 และรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้เสด็จมาประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหารเมื่อคราวทรงผนวช และติดตั้งจอแสดงข้อมูลสถานที่สำคัญในวัดบวรนิเวศวิหาร อยู่ด้านหน้ากระจกสีที่สะท้อนแสงออกมาสวยงาม

    ทางด้านปีกขวา ก็จะประกอบด้วยห้องนิทรรศการอีก 3 ห้องเช่นกัน


ห้องที่ 4 : สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์

    สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระราชปนัดดาในรัชกาลที่ 4 และสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปีพ.ศ.2464 - 2501 (37 ปี) พระกรณียกิจที่สำคัญคือ ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และการอุปสมบทกรรม พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกทั้งยังเป็นผู้ถวายพระนามแก่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่ 9 อีกด้วย (ไม่รวมทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี)

    ความพิเศษของห้องจัดแสดงนี้ก็คือ เครื่องราชูปโภค ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงใช้ระหว่างทรงผนวช และวีดีทัศน์การพระราชพิธีทรงผนวช

ห้องที่ 5 : พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)

    พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปีพ.ศ.2501 - 2504 (4 ปี) ท่านเป็นพระอาจารย์ผู้ถวายการสอนธรรมแก่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในช่วงที่ทรงผนวช และท่านยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของไทยเป็นองค์แรกอีกด้วย

    ภายในห้องจัดแสดงการจำลองบริขารเครื่องใช้ของท่าน และภาพถ่ายกรณียกิจสำคัญต่าง ๆ

ห้องที่ 6 : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน)

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่ปีพ.ศ.2504 - 2556 (52 ปี) ทรงเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งทางพระพุทธศาสนา ด้วยทรงส่งเสริม เผยแผ่ และสร้างความสัมพันธ์อันดีทางศาสนาไปยังต่างประเทศ ทรงโปรดให้สร้างอาคารเพื่อสาธารณประโยชน์หลายแห่ง เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และทรงพระนิพนธ์ตำรา พระธรรมเทศนา และบทความอันเป็นคติธรรมในการดำรงชีวิต ซึ่งพระกรณียกิจดังกล่าวทำให้การประชุมสุดยอดพุทธศาสนิกแห่งโลกครั้งที่ 5 เมื่อปีพ.ศ.2555 ได้มีการถวายตำแหน่ง ผู้นำคณะสงฆ์สูงสุดแห่งโลกพระพุทธศาสนา แก่พระองค์

    ห้องนี้จัดแสดงบริขาร และของใช้ส่วนพระองค์เช่นเดียวกับห้องอื่น ๆ โดยที่ผนังจะติดความตอนหนึ่งจากพระธรรมเทศนา ให้ผู้เข้ามาเที่ยวชมได้พิจารณาและนำกลับไปใช้ในชีวิต

    แม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะไม่ได้ขนาดใหญ่มากนัก ไม่ได้มีการจัดแสดงที่ทันสมัยหรือมีน่าดึงดูดใจเท่ากับที่อื่น ๆ แต่ด้วยความสวยงาม บรรยากาศของอาคาร และเรื่องราวอันทรงคุณค่าที่เล่าผ่านโบราณวัตถุที่นำมาจัดแสดง ก็ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความพิเศษมากแล้ว

    ใครที่เดินทางมาไหว้พระที่วัดบวรนิเวศวิหาร แล้วมีเวลาเหลือ ลองเดินมาแวะชมอาคารทรงคุณค่าหลังนี้ ถือเป็นการเติมเต็มจุดประสงค์ของอาคาร นั่นคือ การเป็นสถานที่ให้ความรู้ เพื่ออุทิศถวายแด่ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระองค์นั้นนั่นเอง...


-----

    อาคารมนุษยนาควิทยาทาน วัดบวรนิเวศวิหาร

    วัดบวรนิเวศวิหาร 248 ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200

    พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชม วันเสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม

    โทร. 089 441 0488

-----

แผนที่

แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้

คอมเม้น

0 คอมเม้น

กฎการรีวิว

People who love what they do help
you get everything done at an
unbeatable value.

รีวิวโดยทีมงาน RP

What do you do best? Create your
Gig and start selling. It’s free, and
only takes 5 minutes.

ร่วมกิจกรรม

Your safety is our top priority. Secure
transactions and our safety team
protect you at all times.
เข้าสู่
ระบบ
เขียน
รีวิว
รีวิว
อัพเดท
Top 10
รีวิว
TOP
ติดต่อทีมงานเพื่อ
แนะนำรีวิวน่าสนใจ