Review By RP

7 ที่ท่องเที่ยว พังงา เมืองสุดชิค ทะเลสุดปัง

โดย: Review Promote
23 มิถุนายน 2563 เวลา 22:29 ผู้เข้าชม: 3,267
0
0
0

พังงา เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอันดามันที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของธรรมชาติและเสน่ห์ของผู้คนท้องถิ่น จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติพากันมาท่องเที่ยวอย่างมากมาย เพื่อชื่นชมความสวยงามของทะเลไทยที่สวยไม่แพ้ที่ใดในโลก


Cr : noozup.me สิริลัน


1.เกาะปันหยี

เกาะปันหยี นั้นเป็นเกาะหมู่บ้านชาวประมงในจังหวัดพังงาค่ะ ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา โดยเริ่มมีชุมชนเกิดขึ้นจากชาวประมงอินโดนีเซียที่อพยพมาเมื่อ 200 ปีก่อน และเริ่มมีการมาตั้งถิ่นฐานบนเกาะนี้ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่บนเกาะปันหยีนั้นมีอาชีพประมง และเป็นชาวมุสลิมอีกทั้งการก่อสร้างหมู่บ้านแทบทั้งหมดนั้นจะอยู่ด้านหน้าของหน้าผาหินปูน ซึ่งอยู่เหนือน้ำทะเลแทบทั้งหมด ทำให้ในช่วงเวลาน้ำขึ้น จะดูเหมือนว่าหมู่บ้านปันหยีลอยอยู่กลางท้องทะเลเลยทีเดียวค่ะ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และมีเอกลักษณ์อีกแห่งของพังงา บนเกาะปันหยีนั้นมีทั้งโรงเรียน สถานีอนามัย มัสยิด ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมายอีกด้วย นักท่องที่ยวสามารถมาอร่อยกับอาหารทะเลสดได้ถึงกระชังปลา เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักอาหารทะเลเลยค่ะ สำหรับใครที่อยากได้ของฝากอร่อยๆ ต้องไม่พลาด น้ำพริกกุ้งเสียบ ของเกาะปันหยีค่ะ 

อีกหนึ่งความ Unseen บนเกาะปันหยีแห่งนี้ก็คือ สนามฟุตบอลลอยน้ำ แห่งเดียวในประเทศไทยค่ะ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากฟุตบอลโลก 1986 สนามฟุตบอลแห่งนี้มาจากความตั้งใจของเด็กๆ ในชุมชน และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลหลายรายการเลยทีเดียว ทำให้สนามฟุตบอลกลางทะเลแห่งนี้ เป็นที่เที่ยวไฮไลท์ของเกาะปันหยีอีกด้วย

 

ที่อยู่ : ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา

พิกัด : https://goo.gl/maps/wHcmepEVyJXaap1X9

โทร : -

เว็บไซต์ : -

Cr : avengo


2.หมู่บ้านมอแกน

ชาวเล มอแกน นั้น จะมีประชากรในประเทศไทยประมาณ 400 คน และในประเทศเมียนมาร์ อีกประมาณ 2,000 ถึง 3,000 คน ค่ะ โดยส่วนใหญ่ยังคงมีชีวิตกึ่งเร่ร่อน เดินทางทางทะเลบ่อยครั้ง เมื่อประมาณ 20-30 ปีที่ผ่านมา มีชาวเล มอแกน หลายครอบครัวที่ตั้งถิ่นฐานหมู่บ้านถาวรที่ หมู่เกาะสุรินทร์ ด้วยความที่วิถีชีวิตนั้น ต้องอพยพโยกย้ายอยู่ตลอดเวลา เลยทำให้ยังชีพด้วยการเก็บหาอาหารจากธรรมชาติ เลยไม่ได้ทำลายความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพในหมู่เกาะสุรินทร์ค่ะ

 

สำหรับ หมู่บ้านมอแกน แห่งนี้ คนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลในพื้นที่ ทะเลอันดามัน น่าจะต้องเคยเห็นหรือรู้จักกันมาบ้างแล้ว ชาวมอแกน เป็นชุมชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ตามเกาะแก่งในทะเลอันดามัน และสืบเชื้อสายมาจากโปโตมาเลซึ่งร่อนเร่อยู่ในทะเลอันดามัน มากว่า 100 ปี เลยค่ะ

 

โดยชาว มอแกน จะอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับท้องทะเล มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ทำให้พื้นที่ หมู่เกาะสุรินทร์ ที่เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของ ชาวมอแกน กันค่ะ เพราะในยุคหลังๆ นั้น ชาวมอแกนเริ่มที่จะเปิดหมู่บ้านให้แก่การท่องเที่ยวมากขึ้น ใครที่เคยได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ หมู่บ้านมอแกน จะสัมผัสได้ถึง รอยยิ้ม และน้ำใจไมตรี รวมถึงความน่ารักเป็นกันเองของชาวมอแกน ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจสำหรับนักท่องเที่ยว แม้การท่องเที่ยวและความเจริญจะเข้าสู่ หมู่บ้านมอแกน แห่งนี้ มากยิ่งขึ้น แต่วิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ก็ยังคงเรียบง่ายและอาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ท่ามกลางท้องทะเลสีฟ้าใสสวยสุดๆ จนที่นี่ได้รับการฉายาว่าเป็น สวรรค์กลางทะเล เลยค่ะ

 

ที่อยู่ : หมู่บ้านมอแกน หมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา

พิกัด : https://goo.gl/maps/2fwgjQR2R4dfhzE16

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน

โทร : -

เว็บไซต์ : -

Cr : thetrippacker


ผู้สนับสนุน

3.คลองสังเน่ห์

คลองสังเน่ห์ หรือที่เรียกกันว่า Little Amazon ตั้งอยู่ใน ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นคลองสายสั้นๆ ที่มีต้นน้ำมาจาก เขาบางเต่า ก่อนจะไปสิ้นสุดลงที่ แม่น้ำตะกั่วป่า เป็นผืนป่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายมากมาย มีพืชพรรณแปลกๆ ที่ขึ้นอยู่ ตามริมคลอง เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก นักท่องเที่ยวเลยตั้งฉายา ว่าเป็น Little Amazon นั่นเองค่ะ

 

ไฮไลท์ของที่นี่ คือการได้ล่องเรือชมวิวของธรรมชาติที่ คลองสังเน่ห์ แห่งนี้ มองสองข้างที่เต็มไปด้วยต้นไทรโบราณ อายุนับร้อยปี บางช่วงของคลอง ต้นไทรจะห้อยอยู่ตรงหน้าเหมือนอุโมงค์ต้นไทรให้ล่องเรือผ่านไปค่ะ ภาพแบบนี้จะสามารถหาชมได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น

และยังมีต้นไม้น้ำ อย่าง ต้นตีนเป็ดน้ำ และที่สำคัญคือการได้ชมงู ไม่ว่าจะ งูเขียว งูเหลือม งูปล้องทอง ที่เราจะสามารถชมได้จากสองฝั่งของคลอง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายใดๆ ค่ะ เพราะเราแค่ดูงูอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เท่านั้นเองค่ะ ในช่วงเวลากลางวันจะเป็นตอนที่ งู นั้น จะนอนหลับนิ่ง ขดไปกับต้นไม้เพื่อรอเวลาออกหากินในตอนกลางคืนอีกด้วยค่ะ

     

ที่อยู่ : คลองสังเน่ห์ ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา

พิกัด : https://goo.gl/maps/zuychWtHqrswKM9E7

เปิดให้เข้าชม : 09.00-17.00 น.

โทร : 0-86953-1789 , 0-7642-4176

เว็บไซต์ : -

Cr : thailandtourismdirectory


4.เขาหน้ายักษ์

อุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ที่มีชายหาดที่สวยงามยาวกว่า 13 กิโลเมตร จุดไฮไลท์ของที่นี่คือ จุดทิศเหนือสุดของชายหาด เขาหน้ายักษ์ นั่นเองค่ะ ที่เงียบสงบ และมีหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าใสสวยงาม และโขดหินรูปร่างแปลกตา เป็นจุดชมวิวทะเล ที่สามารถมองเห็นพื้นทะเลสวยงามได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวก็เลยนิยมมาเล่นน้ำ และดำน้ำชมปะการังกันที่นี่

เรื่องเล่าของที่มาชื่อ เขาหน้ายักษ์ นั้น ว่ากันว่าเดิมหน้าเขาด้านที่หันหน้าออกไปทางหมู่เกาะสิมิลัน จะมีหน้าผาที่มีรูปร่างเหมือนกับใบหน้าของยักษ์ที่มีอาการโกรธเกรี้ยว จนเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น เรือรบของทหารญี่ปุ่นที่แล่นผ่านบริเวณนี้ได้เกิดจมลงโดยไม่ทราบสาเหตุหลายลำด้วยกัน ทหารญี่ปุ่นเลยเชื่อกันว่า น่าจะเกิดจาก ความอาถรรพ์ของหน้าผารูปร่างคล้ายหน้ายักษ์ นี้ เลยใช้ปืนใหญ่ ยิงส่วนที่ เป็นเหมือนหน้ายักษ์จนพังลงและจมสู่ทะเลบริเวณนี้ จึงเป็นตำนานที่เล่ามาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ นี้ ยังมีป่า ทุ่งเสม็ดขาว ขนาดใหญ่กว่า 1,000 ไร่ ที่มีวิวสวยงามของหญ้าสีทองกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา มีลักษณะคล้าย ทุ่งหญ้าสะวันนาของประเทศแอฟริกา และแน่นอนว่าจุดนี้นักท่องเที่ยวก็ชอบที่จะไปเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาตินี้เอาไว้ ซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งใน ทุ่งสะวันนา ไม่กี่แห่งที่มีในประเทศไทยค่ะ

 

ที่อยู่ : เขาหน้ายักษ์ อุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา

พิกัด : https://goo.gl/maps/g4TYBLCy1WtJmCSTA

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน (สามารถเช็คเวลาออกเรือได้จากบริษัทนำเที่ยว)

โทร : 0-7641-7206

เว็บไซต์ : -

Cr : thailandtourismdirectory


5.วัดเทสก์ธรรมนาวา

ผืนป่าท่าไทรดำรงสถานะของป่าอันน่าฉงนมาจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2533 ได้มีพระชัยพล อาสโภ และพระอานนท์ พระผู้ติดตาม ได้เดินทางเข้ามาบำเพ็ญภาวนา ด้วยเห็นว่าพื้นที่ป่าท่าไทรมีความเงียบสงบ เหมาะต่อการปฏิบัติภาวนา

หลังจากนั้นแรงศรัทธาจากชุมชนและในพื้นที่ใกล้เคียงที่รู้ข่าวก็ได้ร่วมใจกันมาสร้างเป็นที่พักสงฆ์ มีการสร้างศาลามุงจาก สร้างกุฏิให้พระจำพรรษาต่อมาในปี พ.ศ. 2534 พระอาจารย์เสนอ วัดถ้ำทะเลหอย จ.กระบี่ ได้ขอพื้นที่จากอธิบดีกรมป่าไม้สมัยนั้น(นายผ่อง เล่งอี้) อนุมัติให้ใช้พื้นที่ตามโครงการ พุทธศาสนากับป่าไม้ ในชื่อโครงการว่า ศูนย์สาธิตพระพุทธศาสนากับป่าไม้ ภายใต้การกำกับดูแลของวัดประชาธิการาม

ปี พ.ศ. 2537 แหล่งปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ได้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์ท่าไทร โดยได้รับการอนุญาตจากทางการ ในเรื่องการขอใช้พื้นที่เพื่อเป็นศาสนสถานในการประกอบศาสนกิจ และบำเพ็ญกุศลของชาวบ้านในหมู่บ้านท่าแตงและละแวกใกล้เคียง ให้ได้รับการปลูกฝังอบรมธรรมปฏิบัติอันจะเป็นการปลูกสร้างศรัทธาญาติโยมให้ยึดมั่นอยู่ในความดีงามตามระบอบของพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์รวมที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนในการพัฒนากิจกรรมทางสังคม เช่นการปลูกป่า หรืออบรมธรรม ตามกาลอันควร ช่วยดำรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงถาวรและเจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาอย่างไรก็ดี หลังจากนั้นสำนักสงฆ์ท่าไทร ได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีพระภิกษุมาพำนักอยู่ในบางขณะ เนื่องจากสำนักสงฆ์ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ กระทั่งในปี พ.ศ. 2546 ได้มีการนิมนต์ “พระอาจารย์วินัย รัตนวณฺโณ” หนึ่งในผู้ที่ได้อยู่ปฏิบัติอาจารริยวัตรกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย มาเป็นเวลานาน 16 ปี จวบตนหลวงปู่เทสก์ท่านละสังขารพระอาจารย์วินัยเมื่อมาพำนักปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ท่าไทร ก็ได้นำพาศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนก่อสร้างเสนาสนะพร้อมอบรมปฏิบัติธรรมในที่ดินสาธารณะประโยชน์หรือป่าช้าเดิม

ที่อยู่ : ตำบล ท้ายเหมือง อำเภอ ท้ายเหมือง พังงา 82120

พิกัด : https://goo.gl/maps/rEBZqa79iZ1u3RRz7

เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน

โทร : -

เว็บไซต์ : -

Cr : pantip.com/topic/36435657


6.เกาะไข่

เกาะไข่ ในเมืองไทยนั้น มีอยู่หลายแห่ง ด้วยความที่ชื่อนั้นอาจซ้ำเพราะทุกเกาะมีหน้าตาคล้ายไข่ดาวไปหมด แต่จะมีเกาะไข่อยู่สองแห่ง ที่แต่สวยงาม คือ เกาะไข่ที่ ตะรุเตา กับ พังงา ที่ที่เราจะพาไปทุกนั้นคือ เกาะไข่ จังหวัดพังงา นี่เองค่ะ บริเวณโดยรอบจะมีด้วยกัน 3 เกาะ นั่นก็คือ เกาะไข่ใน เกาะไข่นอก และ เกาะไข่นุ้ย ค่ะ เราสามารถดำน้ำดูปะการังได้ทั้งสามเกาะเลยค่ะ ในส่วนของ เกาะไข่นุ้ย นั้น จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการัง ที่สำคัญยังสามารถพบปลาการ์ตูนได้อีกด้วย มีชายหาดเล็กๆ อยู่บนเกาะแต่จะไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนชายหาดค่ะ

ต่อมาเป็น เกาะไข่ใน ที่มีความสวยงามของหาดทรายขาวละเอียด สะอาด ตลอดชายหาดของทั้งเกาะ น้ำทะเลสวยใส โดยรอบๆ เกาะมีปะการังที่สามารถดำน้ำตื้นได้ง่ายๆ เลย จะมีทั้ง ปะการัง แผ่นปะการังจาน แต่ที่ห้ามพลาดเลย คือ ฝูงปลาหลากสี หลายชนิด และทางด้านตะวันออกของเกาะ ยังมีหินรูปหัวช้าง และรูปเต่า สาม ตัว เป็นประติมากรรมจากทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดกร่อนของกระแสลมนั่นเองค่ะ นอกจากนี้บนเกาะก็มีร้านค้าบริการ มีอาหาร เครื่องดื่ม และเก้าอี้ผ้าใบเรียงรายอยู่ตลอดชายหาดไว้คอยบริการอีกด้วยค่ะ


ไฮไลท์ ของ เกาะไข่

มาถึง เกาะที่เป็นไฮไลท์ ของที่นี่กันดีกว่าค่ะ นั่นก็คือ เกาะไข่นอก เกาะเล็กๆ ที่มีชายหาดสีขาวนวล เนื้อทรายละเอียด เช่นเดียวกันกับเกาะไข่ใน จะอยู่บริเวณด้านเหนือและด้านตะวันออกของเกาะ น้ำทะเลใสสีเขียวอ่อนออกฟ้า มีโขดหินอยู่ทั่วบริเวณเกาะ มีพันธุ์ไม้ชายทะเลขึ้นพอเป็นร่มเงา โดยบนเกาะจะมีทั้งมีร่ม และเตียงผ้าใบจำนวนมากให้บริการ

 

ที่อยู่ : เกาะไข่ ตำบลพรุใน อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา

พิกัด : https://goo.gl/maps/TmYDybdgY5qwAMRs7

เปิดให้เข้าชม : 08.00-16.30 น.

โทร : -

เว็บไซต์ : -

Cr : nonthasaktravel


7.เกาะสิมิลัน

สิมิลันคือทะเลในฝันของทุกคน หมู่เกาะกลางมหาสมุทรอินเดียที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ แต่ไปได้ง่ายนิดเดียวด้วยเรือสมรรถนะสูงของเลิฟอันดามัน ที่ออกเดินทางทุกวันจากท่าเรือทับละมุ สู่หมู่เกาะสิมิลันอย่างสะดวกสบาย

คำว่า สิมิลัน เป็นภาษายาวี แปลว่า 9 ซึ่งเท่ากับจำนวนเกาะที่ทอดตัวเรียงกันเป็นระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากฝั่งเป็นระยะทางไกลกว่า 70 กิโลเมตร ทำให้ระบบนิเวศน์ที่นี่มีความสวยงามบริสุทธิ์ในทุกมิติ ตั้งแต่ยอดไม้จนถึงใต้น้ำ และเต็มไปด้วยภูมิทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ ทั้งจุดชมวิวที่มีโขดหินรูปร่างแปลกตา หาดทรายขาวละเอียดนุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอย และโลกใต้ทะเลที่สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวและนักดำน้ำทั่วโลกต่างหลงรักหมู่เกาะสิมิลัน

ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เลขที่ 93 หมู่ที่ 5 บ้านทับละมุ ถนนเพชรเกษม ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา

โทร : 0-7645-3272

เปิดทำการ : วันที่ 1 พฤศจิกายน-15 พฤษภาคม ของทุกปี

เว็บไซต์ : http://nps.dnp.go.th

การเดินทาง :

รถยนต์ ใช้เส้นทางกรุงเทพ – สุราษฎร์ธานี-เขื่อนรัชประภา-อ.ตะกั่วป่า-เขาหลัก-ท่าเรือทับละมุ รวมระยะทาง 700 กว่ากิโล ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง

รถโดยสาร สายที่สะดวกสุดคือ บขส 999 vip กรุงเทพ-ทับละมุ (ลำแก่น) ออกรถที่สายใต้ใหม่ ขากลับใช้สายเดิม vip 999 ทับละมุ-กรุงเทพ

เครื่องบิน บินมาลงสนามบินภูเก็ต มีให้เลือกหลายสายการบิน

Cr : wikipedia


ฝากติดตามเพจ ReviewPromote #ReviewPromote #กินเก่ง #เที่ยวเก่ง


7 ที่ท่องเที่ยว พังงา เมืองสุดชิค ทะเลสุดปัง

รายละเอียดแจ้งไว้ในบทความ

คะแนนรีวิว:
ความน่าสนใจ:
สถานที่:
การเดินทาง:
ตั๋ว/บัตรเข้าชม:
คะแนนโดยรวม:
แผนที่

แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้

คอมเม้น

0 คอมเม้น
Other Review by Review Promote

กฎการรีวิว

People who love what they do help
you get everything done at an
unbeatable value.

รีวิวโดยทีมงาน RP

What do you do best? Create your
Gig and start selling. It’s free, and
only takes 5 minutes.

ร่วมกิจกรรม

Your safety is our top priority. Secure
transactions and our safety team
protect you at all times.
เข้าสู่
ระบบ
เขียน
รีวิว
รีวิว
อัพเดท
Top 10
รีวิว
TOP
ติดต่อทีมงานเพื่อ
แนะนำรีวิวน่าสนใจ