ในที่สุด เราก็มีจังหวะมารีวิวเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ ช่วงต้นหน้าหนาว แบบฉบับไม่ขับรถบ้าน เพราะเป็นคนติดเตียงนอนนิ่มๆในห้องอุ่นๆ แต่มันก็ไม่แพงกว่าเช่ารถบ้านเยอะนะ ถ้ามีการวางแผนล่วงหน้า บอกเลยคุ้มทุกนาทีเลยค่ะ แนะนำเกาะใต้นิวซีแลนด์สำหรับคนชอบธรรมชาติสุดๆ ว่าแล้วเริ่มกันเลยดีกว่า

ปกตินักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมแพลนขับรถวนรอบเกาะเป็นวงกลม เริ่มต้นที่เมือง Christchurch ขับมุ่งหน้าไปทาง Fox glacier แวะ Queenstown, Lake Tekapo, และวนกลับมาที่ Christchurch แต่เนื่องด้วยภูมิอากาศของ New Zealand เป็น Alpine terrain คือ อากาศสามารถเปลี่ยนแปลงฉับพลันได้ตลอด ประมาณสองอาทิตย์ก่อนแอดเดินทาง มีพายุหิมะทำให้ถนนเส้น Fox glacier ขาด แอดเลยเปลี่ยนแพลน เป็นเริ่มต้นที่ Queenstown และกลับที่ Queenstown เพื่อนๆคนไหนสนใจ ตามมาดูรายละเอียดได้เลยค่ะ

แอดเดินทางออกจากซิดนีย์ ไปและกลับที่สนามบิน Queenstown ด้วยสายการบิน Jetstar เราไปช่วงเข้าฤดูหนาว 14-22 มิถุนายน การเดินทางมีทั้งหมด 8 วัน 8 คืน เน้นการนอนโรงแรมระดับกลางและเปลี่ยนที่พักน้อย เพราะอยากใช้เวลาในแต่ละที่อย่างเต็มที่

เส้นทางพิกัด....

Queenstown > Milford sound > Mount Cook > Lake Tekapo > Wanaka > Queenstown

DAY1 - บินถึง Queenstown ตอนทุ่มครึ่งจ้า ออกจากเครื่องบินก็สัมผัสได้ถึงลมเย็นยะเยือก เตรียมเสื้อคลุมให้พร้อม แอดแต่งตัวเป็นหัวหอมเลยมีหลายชั้นมากๆ ร้อนก็ถอด หนาวก็คลุมรูดซิปให้เรียบร้อย คืนแรกเครื่องลงเกือบสองทุ่มแล้ว แอดเลยแพลนเดินทางด้วยการรถเมล์เข้าที่พัก เพื่อประหยัดค่าเช่ารถหนึ่งวัน 

ต้องบอกเลยว่า Queenstown เป็นเมืองท่องเที่ยว ไปถึงตอนดึกก็ยังคึกคักอยู่ ลงจากเครื่องทำการ declare ของกิน อุปกรณ์เดินป่าที่เราทำความสะอาดมาแล้ว บอกตามจริงใสๆ ผ่าน ตม ก็ชิวๆ ซิมโทรศัพท์ก็สะดวกมากมีขายในสนามบินเลย จัดตรงนั้นได้ใช้ google map ได้ แล้วเราก็เดินตามทางหา Bus stop ซึ่งมีป้ายบอกชัดเจน ก็เริ่มมีคนยืนรอๆละจ้ะ ตารางรถเมล์ตามลิงค์นี้ www.orc.govt.nz เตรียมเงินสด $10 NZ ต่อคน สัก 20 นาทีก็จอดข้างหน้าที่พัก Rydges Lakeland Resort Hotel Queenstown ของเราเลย เช็คอิน เก็บกระเป๋า แล้วออกไปท่องราตรีเลยจ้า เดินจากที่พักไปชิมอาหารเจ้าดังที่ Freg burger, baker, gelataria ซึ่งมันเปิดเกือบทั้งคืนเลย แอดเลือกที่พักที่นี่เพราะเข้าเมืองสะดวก ไม่ต้องขับรถหาที่จอดรถให้วุ่นวาย

DAY2 – แอดจอง Milford Sound day tour กับ Southern Discoveries Visitor Centre ไว้ ตื่นแต่เช้าตรู่ไปตามนัดตอน 6.45 โมงเลยจ้า หรือเรานัดให้เค้าไปรับที่ที่พักได้นะคะ เราซื้อทัวร์กับที่นี่เพราะรีวิวในเวปดีมาก และก็ดีจริงๆ รถทัวร์มีขนาดใหญ่ที่จำกัดผู้โดยสารให้น้อยที่สุด ที่นั่งเอนได้ มีที่ชาร์จแบต กระจกบานใหญ่ เห็นวิวทุกทิศทาง และที่ประทับใจที่สุดคือเรารู้สึกว่าคนขับมืออาชีพมาก ขับรถไม่เวียนหัว ทัวร์นี้ใช้เวลาทั้งหมด 12 ชั่วโมง(7 am – 7pm) ขาไป 4 ชม ต่อด้วย Cruise 3 ชม และนั่งรถกลับอีก 3 ชม. ถ้าใครไม่มีเวลาลองนั่งเฮลิคอปเตอร์ได้นะคะ ลดเวลาจาก 4 ชม เหลือ 45 นาทีเอง งบก็ตามสะดวกค่ะ สำหรับแอดชอบนั่งรถนะ ไม่เหนื่อยหรือเบื่อเกินไป เพราะวิวระหว่างทางดีมาก ยิ่งตอนหมอกลง เหมือนนั่งรถทะลุเมฆเลย

**แนะนำ ไปกับทัวร์ไม่ต้องกลัวหิวหรือเรื่องเข้าห้องน้ำ เค้าแวะให้ตลอดทาง ข้อเสีย คือ เค้าให้เวลาถ่ายรูปแต่ละจุดน้อยมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนชอบถ่ายรูป ข้อดีคือ ได้ไปครบทุกจุด ปลอดภัย และได้เก็บแรงไว้ขับรถวันอื่น

ถ้าใครอยากเที่ยว Milford Sound อย่างจุใจ แนะนำให้แวะพักที่เมือง Te Anau สักคืน ถ้าเร่งขับรถเกินไป จะไม่สนุกเอานะ

Mirrow lake ถ้าน้ำนิ่งๆจะเห็นภาพสะท้อนชัดกว่านี้อีก

แวะถ่ายรูประหว่างทาง

ภาพวิวตอนนั่ง cruise เจอน้องสิงโตทะเลธรรมชาติด้วย

มีขับเรือให้ไปใกล้น้ำตกที่สุด รู้สึกตัวช้า ก็เปียกสิคะ วิ่งเข้าในเรือไม่ทัน ><"

ขากลับแวะเข้าห้องน้ำ มีฟาร์มอัลปาก้าน้องน่ารักมากกกก เรียกไม่ทัน แต่เขย่าถุงขนมละวิ่งเหยงๆมาไวเชียว

กลับมาก็กินอาหารไทยใน Food court ละพักผ่อนเลยจ้า หมดแรง วันนี้ก็ยังไม่ต้องเสียค่าเช่ารถนะ หุหุ

DAY3 – นอนตื่นสายๆเพื่อได้ชาร์จพลังสักนิด แล้วเดินออกมาถ่ายรูปเล่นหน้าที่พัก และเดินไปรับรถเช่าในเมืองค่ะ รถมีหลายแบบหลายราคา เราจองไว้ล่วงหน้าแบบรถเล็ก แต่พอดีรถหมด เลยฟรีอัพเกรดเป็น Toyata Rav4 มา ยิ้มเลย แห่ะๆ เพื่อนๆเช่ารถขับช่วงหน้าหนาวที่ NZ แนะนำให้ศึกษาวิธีการใส่โซ่ให้เรียบร้อย ถ้าไม่มั่นใจควรให้พนักงานสาธิตให้ดูก่อนนำรถออกจากศูนย์

แพลนเที่ยววันนี้ คือ ขับรถรอบๆ Queenstown กัน เริ่มจาก Shot Over jet www.shotoverjet.com ชมเมืองเก่า Arrowtown แล้วแวะไปดูบรรยากาศบันจี้จัมพ์ และปิดท้ายด้วยเสต๊กเจ้าดัง Frame Grill ที่จองไว้ในเมืองตอนสองทุ่ม  ในแผนที่คือขับรถเป็นวงกลม ใช้เวลาไม่นาน แต่ละที่ไม่เกิน 30 นาที

บรรยากาศหน้าที่พัก ใกล้ Lake Watipuka ต้องออกตัวว่าเป็นโรงแรมสามดาว ข้างนอกดูดี แต่ห้องเก่าไปมาก ทำเลดี ราคาไม่แพง แอดรับได้

บรรยากาศหน้าโรงแรม เจอ lake ข้างหน้า สวนสาธารณะฝั่งตรงข้าม และภูเขายอดน้ำแข็งเป็นฉากหลัง แค่นี้ก็ฟินแล้วอ่ะ

บรรยากาศในตัวเมือง Queenstown ในช่วงกลางวัน เล็กๆน่ารัก

ขึ้นเรือดริฟที่ Shotover ไม่คิดว่าน้ำตื้นๆ จะหวาดเสียวได้ขนาดนี้ สวยมากจริงๆ ควรไปลองสักครั้ง มีบริการล็อกเกอร์ให้ฝากของตอนแต่งตัว ระวังแค่อย่าทำหมวกและแว่นกันแดดหล่นแบบแอดนะ หายแล้วหายลับ 

ที่ Queenstown ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น Skyline Gondola, Rafting(ล่องแก่ง), นั่งเฮลิคอปเตอร์ และอีกหลายๆอย่าง เลือกได้ตามความชอบกันเลย

Arrowtown เหมืองขุดทองเก่า ร้านค้า ไปรษณีย์ ร้านกาแฟตกแต่งน่ารัก คงสไตล์วินเทจ

ร้าน Provisions café ที่ Arrow town แต่งร้านสไตล์ art gallery มีมุมถ่ายรูปโชว์โซเชียลหลายจุด แต่ทีเด็ดอยู่ที่ ขนม Sticky buns ห้ามพลาด

ต่อมาขับรถไปที่ AJ Hackett Bungy Kawarau Bungy Centre เป็นบันจี้จัมป์ที่แรกของโลก ที่นี่ขับรถเข้าไปดูเฉยๆได้ค่ะ ถ้าพวก Nevis Swing แอดเข้าใจว่า ต้องมีคนเล่น และห้ามขับรถเข้าไปเองค่ะ ใครที่ชอบความท้าทาย มาลองสักครั้งก็ได้ วิวสวย น้ำใส แต่จะลืมตาตอนโดดมั้ย อีกเรื่องนึง

วันนี้ขอจบทริปด้วยการกินเสต๊กและหอยนิวซีแลนด์เจ้าดังที่ www.flamegrill.co.nz ที่จอง online ล่วงหน้าไว้!!! สมกับการรอคอยมากๆ สายเนื้อไม่ควรพลาด มีเนื้อส่วนที่ทางร้านใช้ในการแข่ง world steak ให้ได้ลองชิมกันด้วย

DAY4 – ยิงยาวขับรถไป Mt. Cook ปกติใช้เวลาเพียง 3 ชม. แต่ NZ วิวสวยมาก ทำให้ขับไปถ่ายรูปไป กว่าจะถึงที่พักก็บ่ายสาม เพื่อนๆระวัง black ice บนถนนกันด้วยนะ มันเป็นเหมือนฟิลม์น้ำแข็งและมองยาก ถนนจะลื่นมาก อันตราย ถ้าขับกลางวันก็น่าจะปลอดภัยกว่า

ระหว่างทาง จุดพักรถ highlight อยู่ที่ Lindis pass

สำหรับคนไทยที่ขับรถกันเอง ต้องระวัง Speed Limit ด้วยนะคะ แอดเจอรถตำรวจสามคัน ที่ถนนตรงๆโล่งๆเนี่ย มันน่านัก ขับมาสักพักเพิ่มพลังกันที่ ฟาร์ม High court salmon ที่ Twizel ปลาสดมาก น้ำจิ้มซีฟู้ดควรพกมาด้วยคนไทยแบบเรา

กะชังปลาแซลมอนในน้ำ Glacier สีฟ้า tortoise แปลกตามาก ของจริงสวยกว่าในรูปเยอะ

ขับรถต่อเข้าโรงแรมที่ Mt. Cook วันที่ไปครึ้มมาก ภาพอาจจะดูไม่สวย แต่รับรองต้องประทับใจทุกคน ขับรถ ชมวิว 

แอดเช็คมาแล้วว่า Hooker Valley track ถูกปิดปรับปรุง เพราะเสียหายจากน้ำท่วม วันนี้เลยขอไปเดินถึงสะพานแรกก็ยังดี เส้นทางนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น track ที่สวยที่สุดและเดินทางง่าย เป็นทางราบ หวังว่าจะได้มีโอกาสไปแก้ตัวอีกรอบ ก่อนมาเดินแนะนำให้แต่งตัวเผื่อหนาว เนื่องด้วยพระอาทิตย์ตกตกค่อนข้างเร็ว ช่วงเย็นจะหนาวมาก

วิวพระอาทิตย์ตกจากโรงแรม Hermitage Hotel, Aoraki Mount Cook

DAY5 – ตื่นมาซื้อกาแฟ น้ำ ของกิน สำหรับเป็นเสบียงในการเดิน trekking ของวันนี้ แอดขับรถไปจุดเริ่มต้น Sealy Trans track เส้นทางนี้ท้าทายพอสมควร เป็นบันไดชันๆ 2,200 ขั้นและไม่มีห้องน้ำระหว่างทางด้วย บริเวณด้านบนของภูเขาจะมีหิมะตกในบางวัน เพื่อนๆที่อยากตามแอดมา แนะนำว่าให้เตรียมเสื้อผ้าและเป้สะพายที่กันน้ำได้ รองเท้าเดินป่าที่ดีสำคัญมาก ใช้พลังงานสูงมากกว่าจะถึง Sealy Trans แต่วิวข้างทางก็ทำให้เราลืมเหนื่อยไปเลย ตามแอดมาเลย

ระหว่างทาง จะสามารถพบเห็น glacier ได้หลายจุด จากข้อมูลที่ tourist information centre เค้าบอกว่า glacier ละลาย ทำให้มีขนาดเล็กลงทุกปี ทำให้แอดเห็นภาพเรื่อง global warming ขึ้นมาทันที

สำหรับเพื่อนๆที่ชอบความท้าทาย Mt. Cook ยังมีอีกหลายยอดเขา ให้ได้ไปผจญภัยกัน แล้วแต่ความเชี่ยวชาญและเวลาของเพื่อนๆเลย

เดินทางครึ่งวัน ถึงแล้วจ้า Sealy Trans ที่ตามหา จุดนี้มีโต๊ะให้บริการให้เพื่อนๆนั่งพัก ทานอาหารได้ (Sealy Trans คือ บ่อน้ำขนาดเล็กบนยอดภูเขา อยู่ทางด้านซ้ายในรูป ซึ่งในวันนี้กลายเป็นน้ำแข็ง เนื่องด้วยอากาศบนยอดติดลบ)

ที่ Mt.Cook มีหลายกิจกรรมมาก ถ้าเราไม่ถนัดเดินเขา ก็มีนั่งเรือหรือเฮลิคอปเตอร์ไปดู glacier มีทริปตามดูดาวและทางช้างเผือกด้วยนะคะ

DAY6– วันนี้เราจะย้ายที่พักไปพักที่เมือง Wanaka สองคืนค่ะ ขับรถออกจาก Mt. Cook แล้วผ่าน Lake Pukaki อีกทีด้วย วันนี้แดดเป็นใจ ระหว่างทางเจอรถบ้านเยอะเลย อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีนะ เพราะเราจะสามารถทำอาหารเองได้และที่นี่มีจุดจอดรถปลอดภัยและบริการห้องน้ำ

จุดชมวิว Lake Pukaki

เราขับรถย้อนขึ้นไปทางเหนือสักหนึ่งชั่วโมง เพื่อไปชม Lake Tekapo กันสักหน่อย แนะนำอาหารกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น www.kohannz.com รสชาติเหมืิอนกินที่ญี่ปุ่น รับรองไม่ผิดหวัง

ขับรถสักสามชั่วโมง ก็ถึงเมือง Wanaka ก่อนพระอาทิตย์ตกพอดี เดินเล่นดู Wanaka Tree ต้นไม้ในทะเลสาบที่โด่งดัง 

DAY7 – ตื่น 7 โมง ขับรถแวะไปซื้อพาย ขนม ผลไม้ ขวดน้ำ แล้วไป Roys Peak กันดีกว่า อยากจะพิสูจน์กับตาตัวเองว่าจะสวยมั้ย โชคดีที่วันนี้อากาศครึ้มมาก แดดออกเล็กน้อย เจอหลายคนบอกเจอผิวไหม้เพราะเจอวันเมฆน้อยน้อย

ระหว่างทาง มีน้องแกะมากมาย เพื่อนๆหาเจอในรูปกันมั้ย

จุดนี้ เป็นจุดที่สวยที่สุดของ Roys Peaks แต่ไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดนะ มีห้องน้ำหนึ่งห้องให้บริการด้วย

เดินๆอยู่หิมะตกเล็กน้อยพอถึงยอด แอดเหนื่อยมากกกกก เพราะตัวเองไม่ใช่คนฟิตอะไร แถมขาล้าจากการเดินเขา Sealy Trans เมื่อสองวันก่อน แต่ถ้าไม่เดินตอนนี้ ก็ไม่รู้จะได้มาอีกตอนไหนเนอะ..ส่วนตัวรู้สึกว่าทางเดินไม่ค่อยตื่นตาเท่าไหร่และระแวงน้องแกะเป็นระยะ แต่บอกเลยว่าคุ้มกับการเดิน 6 ชั่วโมงสักครั้งในชีวิต 

กลับถึงที่พัก ก็โอดโอยทุกย่างก้าวตอนขึ้นบันได เราเลยท้าลมหนาวด้วยวิ่งออกไปแช่น้ำอุ่น outdoor jacuzzi เลยจ้า หนาวมาก แต่ช่วยได้มากจริงๆ ที่พัก Ramada Resort by Wyndham Wanaka ใกล้ Roys Peak มีไมโครเวฟในห้องด้วย 

กลับมาก็ฉลองให้ความสำเร็จในการเดิน Roys Peak ด้วยอาหารเกาหลีแซ่บๆ ดีงามอีกแล้ว ที่ Gogi Jip Korean BBQ Restaurant เรื่องกินเรื่องใหญ่

DAY8 – หน้าหนาวก็ต้องเที่ยว Ski resort สิจ๊ะ ชื่อว่า Cardrona Alpine Resort ห่างจาก Wanaka ขับไปทาง Queenstown ห่างไป 40 นาทีเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่มั่นใจในการขับรถขึ้นภูเขาที่ถนนเต็มไปด้วยหิมะ แนะนำทำแบบแอดได้นะ คือขับไปที่ Cardona road ตามป้ายไปจอดรถที่ Pine tree parking แล้วซื้อตั๋วคนละ $10 เพื่อขึ้นรถบัสไป Ski resort จ้า ออกทุกๆครึ่งชั่วโมง ช้าหน่อยแต่ปลอดภัยกว่าเยอะเลย ถ้าอยากลองขับรถขึ้นไปเองก็ศึกษาการใส่โซ่ที่ล้อไว้ด้วยนะคะ

ร้านกาแฟวิวสวย ระหว่างรอรถบัส

ที่ Cardrona Alpine Resort วันนี้มีงาน Winter Festival มีแข่งวิ่งสุนัขบนลานสกี และกิจกรรมอีกมากมาย

สำหรับมือใหม่ควรมาลองเล่นสกีที่นี่ เพราะมีลานสกีเหมาะกับคนเพิ่งหัดเล่น ซึ่งสามารถเดินทางมาได้จากทั้ง Queenstown และ Wanaka 

ขับรถกลับ Queenstown ระหว่างทางแวะถ่ายรูป Cardrona hotel สักหน่อย น่ารักดี

ขับรถจาก Cardona road to Queenstown เส้นทางคดเคี้ยวสุดๆ จากทั้งทริปนี้ เจอรถคว่ำระหว่างทางสองคัน เราเปิดไฟเลี้ยวชิดซ้ายให้พี่ๆท้องถิ่นแซงเลยจ้า อยากมาเที่ยว ไม่ได้อยากเอาชีวิตมาเสี่ยง

พอถึงที่พักที่ Queenstown ก็รีบ Check-in แล้วออกมาเดินเที่ยวเทศกาล Winter Festival รอชมพลุริม Lake Wakatipu ในเมืองตอนหนึ่งทุ่มตรง แนะนำที่พักที่ Queenstown หาที่ที่เดินเข้าไปในเมืองได้ เพราะหาที่จอดรถค่อนข้างยาก ที่นี่อาจจะเป็นเมืองในฝันของนักดื่ม เพราะมีร้านขายไวน์และแอลกอฮอล์ที่มีให้เลือกชิมมากกว่า 100 ชนิด 

สำหรับสาวก Lord of the ring ที่นี่มีร้านเครื่องประดับขายของสะสมที่เกี่ยวกับหนังครบเซ็ต

คืนสุดท้าย ยังไม่จบง่ายๆ แอดจองบ่อน้ำร้อน onsen ส่วนตัวไว้ ได้แช่น้ำร้อน ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งดูดาวปิดท้ายทริป(กล้องมือถือถ่ายรูปดาวไม่ติด แต่ของจริงเห็นดาวชัดมาก) มีบริการรับส่งจากในเมืองฟรีด้วยนะคะ พิกัดในเวปนี้เลย www.onsen.co.nz จองล่วงหน้านานหน่อยนะ เพราะฮิตมากจริงๆ

DAY9 – Check-out ขับรถไปเติมน้ำมัน คืนรถเช่าที่สนามบิน ถึงเวลากลับบ้านละจ้า ฮือๆ ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ นิวซีแลนด์จ๋า

ฝากติดตาม >> ReviewPromote << กันด้วยนะทุกคน ว่าเราจะไปไหน กิจกรรมอะไรที่สนุกๆ #กินเก่ง #เที่ยวเก่ง #ReviewPromote